หากพูดถึงกีฬาฤดูหนาว หลายคนอาจนึกถึงสกี สเก็ตน้ำแข็ง หรือฮอกกี้ แต่ยังมีกีฬาชนิดหนึ่งที่แม้จะไม่ค่อยเป็นที่รู้จักในบ้านเรา แต่กลับได้รับความนิยมอย่างสูงในหลายประเทศแถบยุโรปและอเมริกาเหนือ นั่นคือ “เคิร์ลลิง” (Curling)
เคิร์ลลิง มีต้นกำเนิดจากสกอตแลนด์ และได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศที่มีอากาศหนาว เช่น แคนาดา นอร์เวย์ และ สวีเดน ผู้เล่นต้องผสมผสานความแม่นยำ กลยุทธ์ และการทำงานเป็นทีมได้อย่างลงตัว จนได้รับฉายาว่า “หมากรุกน้ำแข็ง” เพราะต้องวางแผนล่วงหน้าและคิดอ่านให้รอบคอบในทุกการเคลื่อนไหว ถึงแม้จะดูช้าๆ เรียบง่าย แต่กลับมีความเข้มข้นที่คาดไม่ถึง และสร้างความตื่นเต้นได้ตลอดทั้งเกม

กติกาเบื้องต้น
การแข่งขันเคิร์ลลิงมีผู้เล่นฝั่งละ 4 คน ทำการแข่งขันบนลานน้ำแข็งที่เรียกว่า “ริง” (Rink) โดยผู้เล่นจะผลักก้อนหินหนักราว 20 กิโลกรัมที่ทำจากหินแกรนิต ซึ่งเรียกว่า “สโตน” (Stone) ให้เคลื่อนตัวไปหยุดใกล้จุดศูนย์กลางของเป้า หรือที่เรียกว่า “เฮาส์” (House)
แต่สิ่งที่ทำให้กีฬาเคิร์ลลิงโดดเด่น คือการ “กวาดน้ำแข็ง” ด้วยแปรงที่อยู่หน้าเส้นทางของสโตน การกวาดจะช่วยให้ก้อนหินเคลื่อนไปได้ไกลขึ้นหรือเปลี่ยนทิศทางเล็กน้อย การประสานงานและจังหวะการกวาดที่แม่นยำจึงเป็นหัวใจของเกม

วิธีการคิดคะแนน
หลังจากแต่ละทีมผลักสโตนครบ 8 ครั้งต่อรอบ (เรียกว่า 1 เอ็นด์) ทีมที่มีหินอยู่ใกล้จุดศูนย์กลางของเฮาส์มากที่สุดจะได้คะแนน โดยนับเฉพาะก้อนที่อยู่ใกล้กว่าหินของฝ่ายตรงข้าม กติกามาตรฐานมักเล่นกัน 8 หรือ 10 เอ็นด์ แล้วรวมคะแนนเพื่อหาผู้ชนะ

จุดเด่นของกีฬาเคิร์ลลิง
ใช้สมองมากกว่าพลัง: ต้องวางแผนล่วงหน้า คล้ายการเล่นหมากรุก
เล่นเป็นทีม: การสื่อสารและความเข้าใจในแผนระหว่างสมาชิกคือกุญแจสำคัญ
เข้าถึงง่าย: แม้ดูซับซ้อนแต่สามารถเริ่มต้นได้แม้ไม่เคยมีพื้นฐานมาก่อน
เป็นกีฬาสำหรับทุกเพศทุกวัย: ทั้งชาย หญิง และกลุ่มผู้สูงอายุสามารถเล่นได้

เคิร์ลลิงในเวทีโลก
เคิร์ลลิงกลายเป็นกีฬาที่มีในการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวตั้งแต่ปี 1998 และมีการจัดชิงแชมป์โลกทุกปี ทั้งประเภทชาย หญิง และแบบทีมผสม (Mixed Doubles)
Leave a Reply